อาคารชลันต์ทิพย์ ชั้น 14 ซอยคอนแวนต์ ถ.สีลม บางรัก (ตรงข้าม รพ. BNH)
092-465-6462
096-262-9263
gowoonmomglobal@gmail.com
“ตับ” เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย มีน้ำหนักประมาณ 2% เช่น เราหนัก 60 กก. ตับของเราจะหนักประมาณ 1,200 กรัม ตับมีหน้าที่สำคัญมากกว่า 500 อย่าง ที่เรารู้กันเป็นอย่างดี ก็คือ หน้าที่กำจัดสารพิษต่างๆ อาหารทุกคำยาทุกเม็ดที่เรากินล้วนมีสิ่งที่ตับต้องกำจัดทั้งสิ้น ตับเป็นต่อมมีท่อใหญ่ที่สุด สิ่งที่ตับสร้างคือ น้ำดี (bile) โดยเซลล์ตับปกติทุกเซลล์จะสร้างน้ำดี (bile) น้ำดีที่สร้างจะไหลไปตามท่อเล็กๆ ซึ่งมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาไม่เห็น เรียกว่า “bile canaliculi” แล้วรวมกันถึงท่อน้ำดีที่ใหญ่ขึ้นในตับ เรียก “bile duct” ตับมี 2 กลีบ (lobes) ท่อน้ำดีจากทั้ง 2 กลีบ จะรวมตัวกันเป็น “hepaticduct”จะไปเชื่อมต่อกับท่อน้ำดีที่ไหลไปยังถุงน้ำดี (gallbladder) ตับปกติของผู้ใหญ่ จะสร้างน้ำดีวันละหลายลิตรส่วนใหญ่จะไหลเข้าสู่ลำไส้เล็ก ส่วนที่ 2 ของลำไส้เล็กช่วงแรก (second part of duodenum) มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี (ไม่เกิน 100 cc) เมื่อตับกำจัดพิษจากสิ่งที่เรากินเข้าไป กากหรือขยะของสารพิษจะถูกขับ ออกจากตับได้ 2 วิธี
ตับเป็นทั้งโรงงานผลิต โรงกำจัดพิษและโกดังสะสมทั้งสิ่งที่เป็นและไม่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย เช่น ไขมัน เครื่องยนต์ของรถ เรือ หรือพาหนะใดๆต้องการการทำความสะอาดทั้งสิ้น ตับก็ต้องการเช่นกัน ตับที่สะอาดจะทำงานได้ดีขึ้นกว่าตับที่สะสมกากขยะไว้ทั้งในตับเองและในถุงน้ำดี
การดีท๊อกซ์ที่ตับเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เพราะราว 90 % ของมะเร็งเกิดจากสารพิษที่ได้รับในสิ่งแวดล้อม ทั้งควันบุหรี่ อาหาร น้ำและอากาศ สารพิษที่ผ่านการดีท๊อกซ์ที่ตับ มีทั้งที่เกิดขึ้นในร่างกายเอง และได้จากสิ่งแวดล้อม ขบวนการดีท๊อกซ์ที่ตับ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ตามการทำงานของเอนไซม์ คือ เฟส1 และ เฟส2
สารอาหารหลายชนิด มีบทบาทสำคัญในกระบวนการดีท๊อกซ์ที่ตับ ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน บี ซี อีและ selenium นอกจากนี้ กรดอะมิโนต่างๆ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในเฟส 2 ได้แก่ glycine, cysteine,glutamine, methionine, taurine, glutamic acid และ aspartic acid
นอกจากที่ตับแล้ว เรายังพบว่ามีกระบวนการดีท๊อกซ์ในส่วนอื่นของร่างกายด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมอง การขาดสารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็น จึงทำให้เกิดการทำลายของเซลล์ประสาทอย่างเช่นที่พบในโรค Alzheimer และ Parkinson สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อตับมีหลายชนิด แต่ที่มีงานวิจัยน่าสนใจที่สุด คือ Silymarin สารตัวนี้ช่วยปกป้องเซลล์ตับจากการถูกทำลายและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดีท๊อกซ์อีกด้วย โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (มีฤทธิ์แรงกว่าวิตามินอีและซีหลายเท่า) ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ glutathione ถึง 35% และช่วยการสร้างเซลล์ตับใหม่ขนาดที่ใช้ คือ70 – 210mg วันละ 3 ครั้ง
โดยมีส่วนผสมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนที่พิเศษมากที่จะช่วยการสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆและกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งจะเข้าไปเปลี่ยนสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เช่น สารโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ยาบางชนิด แอลกอฮอล์ ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ ทำให้ตับสามารถขับสารพิษจำนวนมากขับออกผ่านทางลำไส้ และสุดท้ายจะขับออกจากร่างกายพร้อมกับอุจจาระ
แต่จะมีสารพิษบางส่วนถูกดูดซึมกลับเข้าทางกระแสเลือด และขับออกทางไต ดังนั้น ในระหว่างที่ตับขับสารพิษนั้น ไตก็จะทำงานหนักมากขึ้น เนื่องจากมีสารพิษจำนวนมากที่ขับออกจากตับเข้าสู่ไต เพราะฉะนั้นผู้ที่จะทำการล้างพิษตับจะต้องมีสภาพการทำงานของไตที่สมบูรณ์เพียงพอด้วย
ประโยชน์ที่ได้จากการล้างพิษตับ
– ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายให้แข็งแรง สามารถต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
บรรเทาความรุนแรงของหวัดหรืออาการภูมิแพ้
– ช่วยป้องกันและต่อสู้กับมะเร็ง ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์และคืนความสดชื่นให้กับเซลล์ทั่วร่างกาย
– เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยต่อต้านทำลายเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ตับไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
– สร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆ หลายชนิด ที่ช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกาย
– ป้องกันตับจากสารพิษ ยา และสารจากแอลกอฮอล์
– ช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ กลับมาใช้ได้ใหม่ เช่น กลูต้าไทโอน และวิตามินซี
– ช่วยบำรุงเซลล์ตับให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น เร่งการขับสารพิษในร่างกาย ปกป้องสารพิษจากการทำเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง
– ช่วยลดการสะสมของไขมันที่ตับและลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
– ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง คอลลาเจน อิลาสติน เส้นเอ็น และความแข็งแรงยืดหยุ่นของหลอดเลือด
ตับเป็นอวัยวะที่มาสารถซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้ดีกว่าอวัยวะอื่น เมื่อเราสามารถกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายของตับออกไปได้ ขบวนการขจัดสารพิษที่ตับหรือล้างพิษตับก็เป็นอีกวิธีการที่จะช่วยให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้น